วัน International Women’s Day ยังไม่จบ เพราะฉะนั้นเซอร์ทิสขอชวนทุกคนมาพูดคุยกับอีกหนึ่งผู้หญิงเก่งของเรา เพราะพลังของผู้หญิง คือพลังที่ขับเคลื่อนโลกของเราให้พัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างสมดุล
คุณจิ๊ก Business Development Manager ที่เซอร์ทิส คือหนึ่งในผู้หญิงเก่งในโลกของเทคโนโลยี ที่ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการพูดคุยและสร้างโซลูชันร่วมกันกับลูกค้า เพื่อให้สามารถปิดดีลได้ในแบบที่ดีกับทั้งธุรกิจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด
ในบทสัมภาษณ์นี้ เราชวนมาฟังอีกแง่มุมของความเป็นผู้หญิงที่คุณจิ๊กได้นำมายกระดับในการทำงานสายเทคฯ ประสบการณ์ความท้าทายจากบริบทเรื่องเพศที่คุณจิ๊กเคยพบเจอ และคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้ผู้หญิงสามารถก้าวเข้าสู่แวดวงเทคฯ ได้อย่างประสบความสำเร็จ
1.ช่วยอธิบายเกี่ยวกับมุมมองของความเป็นผู้หญิง ว่าได้เข้ามามีส่วนช่วยในการทำงานในแวดวงเทคโนโลยี และช่วยพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง?
“ก่อนอื่นคือพี่มาดู Pre-Sale เนอะ เราก็จะต้องเจอลูกค้าเป็นหน้าด่านก่อนเสมอ ดังนั้นความเป็นผู้หญิงมันก็มีข้อดี เนื่องจากพอเป็นแวดวงเทคโนโลยีซึ่งส่วนใหญ่เป็น Male-Dominated ก็จะไม่ค่อยเจอผู้หญิงเท่าไหร่ พอเราเข้ามา ด้วยความที่เราก็มีจุดแข็งของเรา ได้แก่หนึ่ง ในแง่ของการตีโจทย์ของลูกค้า การนำ Data มาใช้ และมีมุมมองในเชิงธุรกิจ ส่วนที่สองเป็นเรื่องของ Soft Skills ที่เรามีจุดแข็งในการอ่านใจลูกค้า เข้าใจอารมณ์ของลูกค้าได้ดี อ่านออกได้ว่าตอนนี้ลูกค้าน่าจะเริ่มโมโห หรือตอนนี้ลูกค้าไปกับเราแน่นอน แล้วเราก็สามารถมาวางแผนกันภายใน เพื่อหา Commercial Solution ไปตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น อันนี้เป็นแง่มุมที่หนึ่งของการปิดดีลให้กับธุรกิจ
อีกมุมของพี่ก็น่าจะเป็นในแง่ของการสร้างทีมและบริหารทีม ในด้านของ Soft Skills เรามีทั้งความเข้าใจ มี Empathy และ Compassionate เราก็เลยจะละเอียดอ่อนกับบางจุดที่ผู้ชายอาจจะมองไม่เห็น อย่างเช่น เราจะรับรู้ถึงความรู้สึกของน้อง ๆ เพราะการที่จะสร้างทีมให้เป็นปึกแผ่น หรือว่าบริหารให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เราอยากจะให้ไป มันต้องใช้หลากหลายแง่มุมมากกว่าแค่การที่เราจะตั้งโจทย์หนึ่งสองสามสี่เป็น Hard Objective ไปอย่างเดียว เราก็อาจจะมีวิธีทำให้ทุกอย่างมันกลมกล่อม
ถ้าเราตัดเรื่องเพศสภาพออกไป ตัวเราเองเราเป็นคนค่อนข้าง Strategic Thinking คิดรอบด้าน ดังนั้นการที่เราจะวางแผน หรือตั้งเป้าหมายให้กับทีม เราจะมองรอบด้าน 360 องศาก่อน เพื่อมองหาทางที่มัน Practical ที่สุด เหมาะกับทั้ง Skill Set ของทีม และความเป็นองค์กร เพื่อเอามาประกอบกัน แล้วถึงจะวางแผน เหมือนเราโฟกัสไปที่เป้าหมายที่ต้อง Deliver ก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร”
2.เคยเจอความท้าทายในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเพศของเรามั้ย? และรับมืออย่างไรบ้าง?
“ต้องตอบก่อนว่าถ้าพูดถึงเซอร์ทิสเนี่ยค่อนข้างเป็นองค์กรที่พี่มองว่า Genderless ส่งเสริมความเท่าเทียม เราไม่เคยมามองว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะมองเนื้องานเป็นหลัก ดังนั้นการทำงานภายในไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่ถามว่าพออยู่ในวงการอย่างนี้ เวลาไปออกไปเจอลูกค้า หรือว่าไปเจอ Supplier ข้างนอก เราต้องเจอคนหลายแบบเนอะ มันจะมีคาแรคเตอร์เป็นผู้ชายมาก ๆ ก็จะมีบ้างที่เขาใช้วิธีพูดกับเราค่อนข้างรุนแรง ตะคอกบ้าง หรือเสียงดังบ้าง เหมือนกับใช้ความเป็นผู้ชายของเขาทำให้เรารู้สึกกลัว แต่ถามว่าเรารับมือตรงนั้นยังไง คิดว่าไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็คงจะรับมือสถานการณ์นี้เหมือนกัน ก็คือเราก็โฟกัสเหมือนเดิม ไปที่เนื้องานและเป้าหมาย ว่าสุดท้ายวันนี้คุณต้องการอะไร เป้าหมายที่คุณต้องการให้เราทำให้ได้คืออะไร สถานการณ์จริงคืออะไร เราทำให้คุณได้แค่ไหน ประเมินความจริงไปให้อย่างสุภาพ เราก็ใช้ความเป็นผู้หญิงของเราที่จะทำให้เขาอ่อนลง ก็อาจจะเป็นข้อดีด้วยซ้ำในบางมุม”
3.มีคำแนะนำที่อยากฝากให้ผู้หญิงที่อยากก้าวเข้ามาทำงานในสายเทคฯ มั้ย?
“จริง ๆ แนะนำแบบนี้ก็แล้วกันค่ะ เอาตัวเองเป็นเหมือนตัวอย่างแล้วกันเนอะ วิธีคิดของพี่ก็คือพี่ไม่คิดเรื่องเพศเลย เราก็แค่เอาเรื่องเพศไว้ข้าง ๆ มันไม่เกี่ยวกัน คุณจะเป็นผู้หญิง คุณจะเป็นผู้ชาย สุดท้ายงานก็งานเดียวกัน สิ่งที่ต้องส่งมอบ สิ่งที่ต้องสร้างให้กับองค์กรก็คือสิ่งเดียวกัน เราต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของงานเหมือนกัน ดังนั้นเราก็เอาจุดประสงค์ กลยุทธ์ และเป้าหมายที่เราต้องไปให้ถึงเป็นที่ตั้ง แล้วเราก็โฟกัสอยู่กับเนื้องาน สิ่งที่เราต้องทำ สิ่งที่เราต้อง Implement โฟกัสคุณภาพงานของตัวเอง โฟกัสทักษะที่เรามี ใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์ แล้วก็พยายามที่จะกำจัด Weakness ของตัวเอง พยายามคิดว่าเราจะใช้จุดแข็งของเราทำให้งานมันวิ่งไปข้างหน้า แล้วบรรลุเป้าหมายให้ดีที่สุดยังไง ดังนั้นเพศก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องเลย
เพราะฉะนั้น Let’s concentrate on what do we have to deliver and what's important around us ค่ะ”